ล่าสุด

สุภิญญาชี้ประเด็นมาตรา 9 อยู่ที่การควบคุมและรับผิดชอบ

supinya-klangnarong

สุภิญญาชี้ประเด็นมาตรา 9 อยู่ที่การควบคุมและรับผิดชอบ

หลังจากที่ทางช่อง 3 ออกมาให้ความเห็นว่ามติของ กสท. ที่ไม่เป็นเอกฉันท์นั้นทำให้ทางช่อง 3 ไม่มั่นใจว่าการออกคู่ขนานจะผิดกฏหมายหรือไม่ ในขณะที่ประธาน กสท. ก็ระบุว่าว่าผิดกฏหมายอยากให้ไปแก้ไขสัดส่วนของเนื้อหามากกว่า เมื่อตอนดึกของคืนวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมาคุณสุภิญญาได้ทวิตให้ความเห็นว่า ประเด็นมาตรา 9 ควรดูที่ความสามารถในการควบคุมเนื้อหาและความรับผิดชอบมากกว่าการดูความเป็นนิติบุคคล มิฉะนั้นการที่ Truevision เอารายการ BBC/CNN มาออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมงก็ต้องผิดมาตรา 9 ด้วยเช่นกัน

คุณสุภิญญาให้ความเห็นส่วนตัวกรณีที่มีมติว่าช่อง 3 สามารถออกอากาศคู่ขนานได้แม้จะเป็นคนละนิติบุคคลกันดังนี้

การประกอบกิจการด้วยตนเอง ตามมาตรา9 (พรบ.การประกอบกิจการฯ พ.ศ. 2551) ประเด็นหลักไม่ใช่เรื่องนิติบุคคลเดียวกันหรือไม่ แต่พิจารณาที่การกระทำ/พฤติกรรมว่าการนำเนื้อหามา ในกรณีนี้ ‘ประกอบกิจการด้วยตนเอง’ หรือไม่

การนำเนื้อหา (content) จากช่องอนาล็อกเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิตอลกรณีนี้ ยังไม่ใช่จุดที่จะตัดสินว่า’ไม่ได้ประกอบกิจการด้วยตนเอง’ กสท. ต้องดูพฤติกรรมอื่นๆประกอบ เช่น อำนาจในการควบคุมกิจการ การปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาต และ รับผิดชอบในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น

ยกตัวอย่าง TrueVisions (ผู้รับใบอนุญาตช่องฯ) นำเนื้อหา ของ CNN/BBC ทั้งหมดมาออก 24 ชั่วโมงก็มิได้หมายความว่าทรูวิชั่นส์ไม่ได้ประกอบกิจการด้วยตนเอง ตราบใดที่ TrueVisions ยังบริหารจัดการกิจการนั้นด้วยตนเองและปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาต (มาตรา9 นี้ใช้กับผู้รับใบอนุญาตทุกราย)

ดูรายละเอียดของผู้รับใบอนุญาตอย่าง TrueVisions CTH GMM RS ในการนำผังรายการของต่างประเทศมาออก 24 ชั่วโมง มาตรา 9 ใช้บังคับกับผู้รับใบอนุญาตทุกรายทั้งทีวีใช้คลื่น-ไม่ใช้คลื่น ฟรีทีวี-เพย์ทีวี หัวใจสำคัญคือ ‘ผู้มีอำนาจควบคุมไม่เปลี่ยนมือ’ เมื่อมาตรา 9 ใช้กับผู้รับใบอนุญาตทุกราย แต่ความต่างของ ฟรีทีวีและเพย์ทีวีคือ ‘ผังรายการที่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขใบอนุญาตนั้น’ อาทิฟรีทีวีต้องจัดทำผังที่ละเอียดว่าเพย์ทีวี เช่นช่องวาไรตี้ต้องมีรายการข่าวไม่ต่ำว่าร้อยละ 25 มีรายการเด็ก ข่าวพระราชสำนัก ต้องจัดเรท

เรื่องผังสำคัญไม่แพ้ สัดส่วนผู้ถือหุ้น/เจ้าของ ถ้าผู้รับใบอนุญาตใดมีการเปลี่ยนแปลงตัวอำนาจการควบคุม ต้องแจ้ง กสทช. เพื่อพิจารณานัยยะ แม้แต่กลุ่มวิทยุท้องถิ่นเล็กๆ ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการที่มี ‘อำนาจควบคุม’ ของบริษัท ต้องแจ้ง กสทช.เพื่อพิจารณาว่าถ่ายโอนสิทธิ์หรือไม่ เพื่อป้องกันการถ่ายโอนสิทธิ์ในใบอนุญาตใช้คลื่นฯหรือการประกอบกิจการ ปรกติจะดูที่ ‘ผู้มีอำนาจควบคุม’ เป็นหลัก ไม่ใช่ผังรายการของสถานี

ดังนั้น การจะใช้ดุลยพินิจตัดสินว่า ผู้รับใบอนุญาตนั้น ประกอบกิจการด้วยตนเองหรือไม่ จึงจะพิจารณาที่อำนาจในการควบคุม บริหารจัดการเป็นสำคัญ จากที่กล่าวมาข้างต้น พูดถึงมาตรา 9 พรบ.51 ที่เน้นในมิติการประกอบกิจการ จากนี้จะพูดถึงมิติสิทธิ์การใช้คลื่นความถี่ตามมาตรา 43 พรบ.กสทช.53 บ้าง

มาตรา43 พรบ.องค์กรฯ เป็นเรื่องการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เป็นสิทธิเฉพาะตัว โอนไม่ได้ มอบการบริหารจัดการให้บุคคลอื่นประกอบกิจการแทนไม่ได้ กรณีนี้แม้ช่อง 3 อนาล็อกและช่อง 3 ดิจิตอลจะเป็นกิจการที่ใช้คลื่น แต่การไปนำเนื้อหามา ไม่ใช่การโอนสิทธิในคลื่นความถี่ให้ผู้อื่นบริหารแทน เทียบเคียงกับการใช้คลื่นด้านโทรคมนาคม บอร์ด กทค. (รายงานคณะอนุกรรมการเพื่อการศึกษามาตรา 46 พรบ.ประกอบกิจการโทรคม)

คำว่า ‘ประกอบกิจการ’ ตามมาตรา 46 ของโทรคมนาคม เทียบได้กับมาตรา 43 ของด้านวิทยุ-โทรทัศน์ ในเรื่องที่เกี่ยวกับคลื่นความถี่ มาตรา43 (วิทยุ-ทีวี) และ มาตรา46 (โทรคมนาคม) มุ่งหมายถึงการดำเนินการในส่วนที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ (Essential element) ของการประกอบกิจการ การตีความคำว่า ‘บริหารจัดการทั้งหมดหรือบางส่วนด้วยตนเอง’ จึงต้องอยู่บนพื้นฐานหลักการที่ว่า ผู้รับใบอนุญาตจะต้องสามารถควบคุม (control)

ผู้รับใบอนุญาต จะต้องสามารถควบคุมการใช้งานคลื่นความถี่ซึ่งเป็นเป็นองค์ประกอบหลักได้และต้องรับผิดชอบต่อการกระทำต่างๆที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับคลื่นด้วย

สรุป ‘การประกอบกิจการด้วยตนเอง’ หรือไม่ จะดูที่อำนาจในการควบคุม (control) องค์ประกอบสำคัญ และ การต้องรับผิดชอบกับการกระทำต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ผู้รับใบอนุญาตทำดิจิตอลทีวีทุกราย มีรายละเอียดสำคัญคือต้องทำตาม ‘เงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบกิจการ’ ประเภทนั้น ๆ ด้วย เงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตภาพรวมจะเหมือนกันทุกราย แต่จะมีเงื่อนไขละเอียดแตกต่างกันตามประเภทช่องวาไรตี้ ช่องข่าว ช่องเด็กเยาวชน เป็นต้น

สรุป ผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอล จะต้องไม่โอนสิทธิ์ในการใช้คลื่นไปให้คนอื่น และ ต้องมีอำนาจบริหารจัดการสถานี รับผิดชอบเนื้อหาเต็ม ไม่ว่าทางเครือช่อง 3 ดิจิตอลจะไป จัดทำ-จัดซื้อ-จัดหา-จัดจ้างเนื้อหามาจากที่ใด แต่ต้องทำตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตครบถ้วนเหมือนช่องอื่นๆ

สรุปแบบบ้านๆคือ ผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอล จะเที่ยวเอาคลื่น/สิทธิ์ประกอบกิจการไปขาย/ให้คนอื่นเช่าช่วงต่อทั้งหมดไม่ได้ หัวใจมาตรา 9 อยู่ตรงนีี้

ดังนั้น ถ้าเครือช่อง 3 ดิจิตอล ยืนยันได้ว่าไม่ได้นำคลื่น/สิทธิ์ในการประกอบกิจการไปขายต่อหรือให้คนอื่นเช่าช่วงต่อ (ทั้งหมด) ก็จึงไม่ควรขัดมาตรา 9 การไปซื้อเนื้อหาจากที่อื่นมาออกในช่องตัวเอง ไม่เป็นปัญหาเท่าการขายเวลาให้คนอื่นเช่าช่วงเกินข้อกำหนดตามกฏหมาย

ช่อง 3 ดิจิตอลไปจัดซื้อจัดจ้างเนื้อหา จากบริษัทอื่นๆ ที่ไม่ใช่บริษัทในเครือตนเองก็ยังทำได้ ตราบเท่าที่มีอำนาจบริหารจัดการสิทธิ์นั้นในช่องตน ถ้าช่อง 3 ดิจิตอลจะไปจัดซื้อ-จัดหาเนื้อหาจากช่อง 3 อนาล็อกกันเอง ยิ่งง่ายกว่า เพราะอยู่ใน holding company เดียวกัน ที่โยงอำนาจควบคุมกิจการชัดเจน

มาตรา 9 ไม่ได้ห้ามผู้รับใบอนุญาต ไปจัดซื้อ-จัดหา-จัดจ้างเนื้อหารายการจากที่อื่นๆ แต่ห้ามการขายโอนสิทธิ์ประกอบการหรือห้ามให้คนอื่นเช่าช่วงต่อ การประกอบกิจการด้วยตนเอง คือ การต้องไม่โอนสิทธิ์การประกอบกิจการไปให้คนอื่นเช่าช่วงต่อเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดตามมาตรา 9

ทั้งหมดคือการอธิบายหลักคิดเรื่องมาตรา9และมาตรา 43 ของข้าพเจ้าในฐานะคนที่มีส่วนร่วมร่าง พรบ.53 และใช้อำนาจกำกับดูแล ใครเห็นต่างแย้งได้ค่ะ

ในทางตรงกันข้าม การจะไปแก้ประกาศตามมาตรา9 ให้คนอื่นเช่าช่วงได้ถึง 100% ยิ่งขัดเจตนารมย์ของมาตรา 9 จะกระทบภาพรวมกฏหมายทั้งหมด น่ากลัวมาก

อย่าไปสับสนคำว่า คนละนิติบุคคล ให้เน้นที่การประกอบกิจการด้วยตนเอง/การไม่ให้เช่าช่วงต่อ(แบ่งเวลา) จับหลักกฏหมายให้ดีๆแล้วจะเห็นคำตอบชัดเจน

สรุป ช่อง 3 อนาล็อกมีทางออกบนช่อง 3 ดิจิตอล ถ้ายินยอมให้ช่อง 3 ดิจิตอลบริหารจัดการทั้งหมดตามเงื่อนไข โดยไม่ต้อง/ไม่ควรไปแก้ประกาศใดๆทั้งสิ้น ที่สำคัญ ถ้าเราไปนิยาม 3 อนาล็อกกับ 3 ดิจิตอล เป็น ‘คนอื่น’ ของกันและกัน จะยุ่งมากในแง่ของ media ownership และการครอบงำกิจการสื่อ รายละเอียดลึกๆทางช่อง 3 ดิจิตอลต้องไปเคลียร์กับช่อง 3 อนาล็อกเอง ไม่ใช่ภาระ กสทช. สิ่งที่ กสท.จะพิจารณาคือการยื่นขอมาในนาม 3 ดิจิตอลแบบครบถ้วน

ทุกปัญหามีทางออก แต่ถ้าไม่ประสงค์จะเดินออก ก็มิอาจบังคับใจ แต่ก็ต้องตกอยู่ในสภาพที่กติกากลางกำหนด ถ้าแหกกฏ จะกระทบต่อคนอื่นๆทั้งหมด

ปล. ทั้งหมดคือทวิตส่วนตัวของข้าพเจ้า ที่อิงจากที่มาของมติ กสท.วานนี้และการอธิบายเพิ่มเติม ทุกท่านโต้แย้งได้ จึงเรียนมาเพื่อทราบค่ะ ขอบคุณทีมงาน ทั้งในส่วนสำนักงาน และทีมที่ปรึกษาส่วนตัว สำหรับการอธิบายหลักการข้างต้นทั้งหมด ทุกท่านช่วยกันโต้แย้งได้ค่ะ

Advertisment

Leave a comment