Tweet

ทีวีดิจิตอลยังขาดทุนต่อเนื่อง ช่อง 3 ดิ้นหนีตาย

ผลประกอบการครึ่งปีแรกเริ่มทยอยออกมาให้เห็นกันแล้วสำหรับทีวีดิจิตอลช่องต่างๆ โดยกรมธุรกิจการค้าได้เปิดเผยตัวเลขผลประกอบการที่ได้เปิดเผยถึงตัวเลขผลประกอบการรายได้รวมของช่องฟรีทีวีในบ้านเราตั้งแต่ปี 2556 – 2557 รวมไปถึงช่องทีวีดิจิตอลที่มีการเริ่มออกอากาศเป็นครั้งแรกในวันที่ 25 พฤษภาคม 2557 นับเป็นเวลาได้  3 ปีกว่าๆแล้ว

ซึ่งผลที่ออกมาพบว่าเกือบทุกช่องนั้นมีผลการประกอบการที่ขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ขาดทุนมากที่สุดในปี 2559 ก็คือ ช่องพีพีทีวี ที่ขาดทุนถึง 1,996 ล้านบาท รองลงมาคือ ไทยรัฐทีวี ขาดทุน 928 ล้านบาท, ช่องอัมรินทร์ทีวี ขาดทุน 846 ล้านบาท และ ช่องโมเดิร์นไนน์ ทีวี มีตัวเลขขาดทุนที่ 782 ล้านบาท

สำหรับในปี 2559 มีเพียง 2 ช่องทีวีเท่านั้น ที่มีผลประกอบการที่มีกำไร นั้นคือ ช่อง 7 ที่มีกำไร 1,567 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าลดลงมาอย่างมากจากปี 2557 ที่มีกำไรถึง 5,510 ล้านบาท และ ปี 2558 ที่มีกำไร 2,723 ล้านบาท

ส่วนอีกช่องที่ถือว่ามีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ก็คือ ช่องเวิร์คพอยท์ ทีวี ที่มีผลประกอบการในปี 2559 ที่ 106 ล้านบาท ทั้งที่ในปี 2556 – 2558 นั้น เวิร์คพอยท์ฯ เองมีการขาดทุนอย่างต่อเนื่องที่ 4 ล้านบาท, 208 ล้านบาท และ 8 ล้านบาท ตามลำดับ

ฝั่งช่อง 33 HD ข่าวแว่วๆว่ามีผู้บริการจาก AIS เข้ามารับตำแหน่งหลายตำแหน่ง นั่นแสดงว่าทาง AIS กำลังเข้ามาเป็นผู้เล่นในสื่อ TV แล้ว ส่วนช่อง 3 เดิมปัจจุบันถือใบอนุญาตถึง 3 ช่อง อาจจะกำลังบริหารจัดการใหม่เพื่อไม่ให้ล้มทั้งกระดานก็เป็นได้

ปัญหาส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการที่รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย เนื่องจากเม็ดเงินโฆษณาที่ลดลงไปมากเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว รวมทั้งการที่มีช่องให้เลือกเป็นจำนวนมากเกินไป ซึ่งสุดท้ายแล้วหลายช่องก็จะไปไม่รอด โดยก่อนหน้านี้จอดับไปแล้ว 2 ช่อง คาดว่าอีกไม่นานคงจะมีอีกหลายช่องถอดใจลาโลกทีวีดิจิตอลกันไปอีกบางราย

ช่องที่จะยืนหยัดอยู่ได้ก็จะต้องพยายามหาเนื่อหารายการใหม่ๆมาดึงดูดผู้ชม รวมถึงการที่จะต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์ช่องของตัวเอง ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เม็ดเงินอีกจำนวนมาก ช่องที่สายป่านยาวเท่านั้นที่จะอยู่ตลอดรอดฝั่งได้

อีกทั้งปัจจุบันการแข่งขันจากสื่ออื่นๆอย่าง OTT ย่อมมีผลให้เกิดทางเลือกกับประชาชน การที่สามารถดูทีวีย้อนหลังได้ทำให้ผู้ชมไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาอีกต่อไป ถึงนาทีนี้หลายช่องก็คงต้องหาทางเอาตัวรอดกันละครับ

อ่านข่าวอ้างอีงได้ที่

https://www.matichon.co.th/news/64436
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9600000073335

ภาพประกอบจาก manager.co.th