Tweet

1 กันยายน วันทดสอบพลัง กสทช. กับช่อง 3 ออริจินอล

หลังจากที่ศาลปกครองยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว กรณีที่ช่องสามยื่นฟ้อง กสทช. ตามกฏ Must Carry นั่นก็หมายถึงว่าหลังจากวันที่ 1 กันยายนนี้ กสทช. สามารถบังคับกฏ Must Carry ได้ นั่นคือการห้ามไม่ให้ช่อง 3 อนาลอก ออกอากาศผ่านระบบดาวเทียมและเคเบิ้ล เนื่องจากไม่ได้ยื่นขออนุญาตเป็นช่องทีวีดาวเทียมแบบ Pay TV และหากต้องการออกอากาศผ่านระบบดาวเทียมก็ต้องลดเวลาโฆษณลงเหลือ 6 นาทีต่อชั่วโมง

ที่ต้องรอถึงวันที่ 1 กันยายนนั้นก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ กสทช. ต่อลมหายใจให้กับช่อง 3 ออริจินอลอีก 100 วัน เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงที่เพิ่งจะเกิดการรัฐประหารพอดี เหตุผลในการต่ออายุตอนนั้นก็คือ เพื่อให้ประชาชนรับทราบข่าวสารกันอย่างทั่วถึง เท่าที่จำได้บอร์ด กสทช. ตอนนั้นจะต่ออายุให้ถึง 6 เดือนด้วยซ้ำ แต่ก็มีเสียงคัดค้านจากกรรมการฝั่งประชาสังคมว่านานเกินไป จนสุดท้ายมาจบลงที่ 100 วัน

ดังนั้นหลังจากวันที่ 1 กันยายนแล้ว หาก กสทช. เป็นหน่วยงานที่รักษากฏมากกว่าที่จะรักษาหน้า เราก็คงจะไม่ได้ดูช่อง 3 ออริจินอลผ่านระบบดาวเทียมอีกต่อไป ซึ่งจะหมายถึงว่า 70% ของประชาชนคนไทยทั้งประเทศซึ่งดูทีวีผ่านดาวเทียมและเคเบิ้ลจะเจอกับปัญหาจอดำ

แต่ข่าวจากทางช่อง 3 ออริจินอลหลังจากรับทราบการยกคำร้องของศาลปกครอง ก็ยืนยันว่าจะยังคงออกอากาศผ่านระบบดาวเทียมกันต่อไป ตัวกล่องดาวเทียมต่างๆ ก็คงไม่มีใครถอดรายการช่อง 3 อนาลอกออก เพราะคงจะทนเสียงบ่นจากชาวบ้านไม่ไหว สิ่งเดียวที่ กสทช. ทำได้ก็คือสื่อสารให้บรรดากล่องดาวเทียมรับรู้ว่า กสทช. เองเป็นคนห้ามไม่ให้ออกอากาศช่อง 3 อนาลอก บริษัทกล่องดาวเทียมถึงจะโบ้ยความผิดมาที่ กสทช. ได้

แต่ตอนนี้เองก็เหลือเวลาไม่กี่วันก็จะถึงวันที่ 1 กันยายน ฝั่ง กสทช. เองก็ไม่ได้มีข่าวคราวว่าจะดำเนินการอย่างไร จะปล่อยเลยตามเลย หรือจะต่ออายุไปอีก 100 วัน เพื่อรอคำสั่งศาล ก็ไม่เห็นมีใครใน กสทช. ออกมาให้ความเห็น ทั้งๆที่เรื่องนี้นั้น มีเกิดของทีวีดิจิตอลเป็นเดิมพันรออยู่

หาก กสทช. ไม่กล้าสั่งให้กล่องดาวเทียมถอดช่อง 3 ออริจินอลออก หรือยืดเวลาไปอีก ก็เท่ากับว่าต้องยืดไปเรื่อยๆ จนกว่าศาลจะตัดสิน เพราะหากให้เหตุผลครั้งถัดไปว่ากลัวประชาชนไม่ได้รับข่าวสาร แล้วครั้งต่อๆไปจะให้เหตุผลว่าไม่ต่อให้อีกเพราะอะไร ซึ่งหากออกมาแนวนี้ก็ถือเป็นการคุมกำเนิดทีวีดิจิตอลไปในตัว กสทช. ก็กลายเป็นเสือกระดาษ แพ้ทางเอกชนไปอีกเรื่อง หลังจากเรื่องถ่ายทอดบอลโลกที่โดนสวดยับเรื่องจ่ายเงินจำนวนมหาศาลให้บริษัทเอกชนไปแล้ว

แต่หาก กสทช. ทำหน้าที่ดั่งที่ควรจะเป็น ต้องการให้ทีวีดิจิตอลเดินหน้า รักษาผลประโยชน์ของอีก 20 กว่าช่องทีวีดิจิตอล ไม่ให้ล้มพับไปเสียก่อน เพราะเอเจนซี่โฆษณายังไม่มองไปที่ทีวีดิจิตอลตราบใดที่ช่อง 3 ออริจินอลยังขวางลำอยู่แบบนี้ กสทช. ก็ตัองออกคำสั่งเข้มงวดไม่ให้ กล่องดาวเทียมและเคเบิ้ลเอาช่อง 3 ออริจินอลไปออกอากาศ ทีวีดิจิตอลก็จะได้เดินหน้าเต็มที่ซะที

หาก กสทช. ทำงานแข็งขัน ดำเนินการตามประเด็นหลัง ก็อาจจะโดนประชนบ่นไปซักระยะหนึ่ง ซึ่งก็ควรจะอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ฝั่งช่อง 3 ออริจินอลเองก็จะเริ่มตกที่นั่งลำบาก คนดูจะหายไป 70% ของทั้งประเทศ อาจจะเป็นตัวผลักดันให้ทาง ช่อง 3 อนาลอก ไปออกอากาศคู่ขนาน ทีวีดิจิตอลไทยจะได้เติบโตเต็มที่เสียที

เกมส์นี้จึงถือเป็นการฟาดฟันกันระหว่าง ช่อง 3 ออริจินอล และ กสทช. โดยมีประชาชนและการเติบโตของทีวีดิจิตอลเป็นเดิมพัน ถ้า กสทช. ไม่แกร่งพอ ยอมหงอและต่อเวลาให้ช่อง 3 ออริจินอลอีกละก็ ช่องทีวีอื่นๆที่ไปประมูลคลื่นความถี่กันกันมาก็เตรียมบอกลาทีวีดิจิตอลกันได้เลย