Tweet

ยอดใช้คูปองเกินล้านแล้ว

หลังจาก กสทช. เปิดให้ประชาชนที่ได้รับคูปองนำคูปองมาแลกซื้อกล่องทีวีดิจิตอลตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา แม้การรับแลกคูปองในวันแรกจะมีปัญหาระบบล่มในช่วงบ่าย แต่ในที่สุดด้วยระยะเวลาเพียงประมาณ 25 วันก็มีประชาชนนำคูปองมาใช้แตะ 1 ล้านใบแล้ว

ทั้งนี้ทางเลขาธิการสำนักงาน กสทช. ได้มีการรายงานผลการใช้คูปองที่แสดงตัวเลขแบบ Real time ออกมาเป็นระยะๆ ผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัว Takorn Tantasith โดยยอดการใช้คูปองแตะ 500,000 ใบ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา

ยอดทะลุ 600,000 ใบ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ผ่านยอด 700,000 ใบ ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 800,000 ใบในวันที่ 7 พศจิกายน 900,000 ใบเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน และยอดแตะ 1,000,000 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

หากนับวันเวลาในการนำคูปองมาใช้ของประชาชนจะพบว่ายอดการใช้แตะ 1 ล้านคูปองภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือนนั้น ถ้าคิดยอดคูปองที่แจกไปรอบแรกประมาณ 4 ล้านใบ หากอัตรการใช้คูปองอยู่ในระดับนี้คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 เดือน หรือประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ

ส่วนปัญหาข้อร้องเรียนต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องของการนำจ่ายคูปองที่ไม่เหมาะสม เช่นการนำไปฝากไว้กับผู้นำชมชุน การแอบฉีกคูปองออกไปบางส่วน และที่หนักสุดก็คือประชาชนนำคูปองไปแล้วทางจุดรับแลกแจ้งว่าได้มีการใช้งานคูปองไปแล้ว ซึ่งทาง กสทช. ก็ได้ออกมาคาดโทษกับกลุ่มบริษัทที่แอบนำคูปองของชาวบ้านไปยิงบาร์โค้ดกั๊กการแลกกล่องกับบริษัทอื่นเอาไว้แล้ว

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่บริษัทขายกล่องบางราย ไปอิงพรรคการเมือง หรือองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นในการตั้งจุดรับแลก ซึ่งทาง กสทช. ก็ได้ออกมาห้ามปรามเพราะเกรงว่านักการเมืองจะใช้เป็นข้ออ้างในการหาเสียงทั้งที่ความจริงแล้วเป็นเงินของแผ่นดิน ซึ่งล่าสุดทางบริษัทก็ได้ยุติแนวทางนี้ไป

ประเด็นร้อนแรงล่าสุดก็คงเป็นเรื่องกล่องลม ซึ่งก็คือการมีคูปองมาขึ้นเงินพร้อมสติกเกอร์ที่เป็นไปตามระเบียบของ กสทช. แต่ประชาชนกลับไม่ได้รับกล่อง ซึ่งทาง กสทช. ก็ต้องมีการสอบสวนและหาวิธีในการตรวจสอบต่อไป

สำหรับบริษัทที่จำหน่ายกล่องผ่านระบบคูปองมากสุด โดยเป็นข้อมูลเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมาที่ยอดใช้คูปองรวมประมาณ 700,000 ใบนั้น บริษัทที่ 1 จำหน่ายได้ 109,331 กล่อง บริษัทที่สอง 103,618 กล่อง ซึ่งจากตัวเลขคร่าวๆ ก็จะพบว่า 2 ยี่ห้อหลักนี้ยอดขายไม่ห่างกันมาก อันบ่งบอกถึงการยังไม่มีผู้นำตลาดที่ชัดเจนนัก คาดว่าหลังจากที่ยอดแลกคูปองแตะ 3 ถึง 4 ล้านกล่อง เราคงจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น