สุภิญญาฉุนช่อง 3 ประเด็นจรรยาบรรณสื่อ
หลังจากที่ทางช่อง 3 มาออกข่าวประเด็นว่า MUX หรือผู้ให้บริการโครงข่ายยังไม่พร้อม ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศจึงยังไม่ควรจะใช้กฏ Must Carry หรือบังคับช่อง 3 ให้จอดำนั้น
ด้านโครงข่าย ททบ 5 ได้ออกมาแถลงว่า สัญญาณทีวีดิจิตอลปีแรกครอบคลุม 65% โครงข่าย ThaiPBS ครอบคลุม 63% อันเป็นการแย้งการเสนอข่าวของช่อง 3 โดยยืนยันว่าจะครอบคลุมมากกว่า 50% ในปีแรกมากกว่าแผนพัฒนาโครงข่ายของ กสทช. ด้วยซ้ำ
ทั้งนี้จะเว้นแต่โครงข่าย อสมท. ที่ยังไม่มีความคืบหน้าเนื่องจากประสบปัญหาภายในองค์กรเอง และเกิดภาวะโครงข่ายล่มไปในช่วงระยะเวลาวันสองวันที่ผ่านมา
และในความเป็นจริงแล้วช่อง 3 ดิจิตอลทั้ง 3 ช่องก็เป็นลูกค้าของโครงข่าย ThaiPBS ซึงมีความพร้อมและวางโครงข่ายไปได้ด้วยดี คุณสุภิญญาจึงกล่าวว่า การกล่าวหาเช่นนี้จึงไม่เป็นธรรม
ก่อนหน้านี้ช่อง 3 ฟ้องหมิ่นประมาทอาญา ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กำกับดูแลตนเอง แต่กลับใช้สื่อบนคลื่นความถี่สาธารณะเพื่อปกป้องตัวเอง แล้วใส่ความผู้อื่นเช่นกัน
ประเด็นช่อง 3 ใช้สื่อกล่าวหา ผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอลนั้น ความคิดเห็นส่วนตัวของคุณสุภิญญามองว่า ขัดจรรยาบรรณสือ ในแง่บิดเบือนข้อเท็จจริง และไม่ให้คู่กรณีขึ้แจง กรณีที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นประเด็นจรรยาบรรณของสื่อ และคาดว่าจะทำเรื่องส่งให้สามาคมวิชาชีพที่ช่อง 3 เป็นสมาชิกเพื่อพิจารณาพฤติกรรมว่าละเมิดจริยธรรมหรือไม่
กสทช. เป็นหน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแล ทั้งช่อง 3 หรือใครล้วนสามารถวิจารณ์ได้เต็มที่ แต่ถ้ามีการท้วงข้อเท็จจริง สื่อที่รับผิดชอบควรปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามหลักจรรยาบรรณสื่อ ไม่ว่าคุณจะเป็นสื่อในระบบแอนาล็อกหรือดิจิตอล สิ่งที่ควรมีเช่นเดียวกันคือ ศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ จรรยาบรรณสื่อสารมวลชน ความรับผิดชอบต่อคนดู
ช่อง 3 ทนการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลไม่ได้ ถึงขั้นไปฟ้องหมิ่นและ พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่กลับใช้สื่อใหญ่ในมือบิดข้อเท็จจริง ฝากไปยังนักข่าว คนอ่านข่าว คนเล่าข่าว บก.ข่าวหรือนักแสดงในช่อง 3 ทั้งหมด พิจารณาตนเองในเรื่องจรรยาบรรณ ถ้าเสนอผิดข้อเท็จจริงคุณควรแก้ไข
จุดยืนผู้บริหารช่อง3 ในฐานะนักธุรกิจเป็นอย่างไรนั้นเรื่องหนึ่ง แต่จรรยาบรรณนักวิชาชีพสื่อพื้นฐานก็ต้องมี ฝากสมาคมสื่อฯช่วยดูแลด้วยค่ะ คุณสุภิญญาทวีตส่งท้าย
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.