กสทช. เพิ่งตื่น หวังใช้บัตรประชาชนแทนคูปอง แต่จะป้องการการทุจริตได้จริงหรือ
กสทช. เพิ่งตื่น หวังใช้บัตรประชาชนแทนคูปอง แต่จะป้องการการทุจริตได้จริงหรือ
หลังจากมีการสรุปผลล่าสุดถึงการแจกคูปองผ่านระบบไปรษณีย์ พบว่ามีปัญหาคูปองทีวีดิจิตอลยังตกค้างอยู่เกือบล้านฉบับ เนื่องจากประชาชนไม่อยู่บ้านขณะนำส่งคูปองและจำนวนบุรุษไปรษณีย์ไม่เพียงพอ ทาง กสทช. เลยเตรียมเสนอที่ประชุม กสทช. ให้ใช้บัตรประชาชนแทนคูปอง
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ได้รับคูปองเพื่อเป็นส่วนลดสำหรับแลกซื้ออุปกรณ์รับสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอลแล้วเพียงจำนวนประมาณ 3.8 ล้านฉบับ และยังตกค้างอยู่ที่ไปรษณีย์อีกกว่า 9 แสนฉบับ เนื่องจากไม่มีประชาชนอยู่บ้านและจำนวนบุรุษไปรษณีย์ไม่เพียงพอในการนำจ่าย ทำให้มีคูปองดิจิตอลจำนวนหนึ่งถูกกองไว้ที่ทำการไปรษณีย์ของแต่ละสาขา
เลขาธิการ กสทช. กล่าวต่ออีกว่า ตนเองกำลังจะเสนอให้ที่ประชุม กสทช. พิจารณาการใช้บัตรประชาชนแทนการใช้คูปองทีวีดิจิตอล เพื่อลดปัญหาการไม่ได้รับคูปองทีวีดิจิตอลอีกด้วย นอกจากนี้แล้ววิธีการนี้ยังจะสามารถป้องกันการทุจริตและยังจะช่วยประหยัดงบประมาณในการจุดส่งคูปองทีวีดิจิตอลอีกด้วย
การที่จะนำระบบใหม่นี้มาใช้นั้น ทาง กสทช. จะต้องมีการพัฒนาระบบหลังบ้านเพื่อให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างบัตรประชาชนกับฐานข้อมูลของกรมการปกตรองได้ กระบวนการนี้จะช่วยในการตรวจสอบว่าผู้ที่นำบัตรประชาชนมาใช้เป็นคูปองแลกซื้อกล่องทีวีดิจิตอลนั้นเป็นเจ้าบ้านหรือไม่ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการพัฒนาระบบประมาณ 1 ถึง 2 ล้านบาท และระบบน่าจะพร้อมใช้งานประมาณเดือนธันวาคมนี้ ทั้งนี้จุดให้บริการรับแลกคูปองจะต้องลงทุนซื้อเครื่องอ่านบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดเอง ซึ่งมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณเครื่องละ 1,000 บาท
ทั้งนี้คูปองที่ได้มีการแจกจ่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ก็ไม่จำเป็นต้องนำมาใช้ในกระบวนการแลกซื้อกล่องทีวีดิจิตอลอีกต่อไป แต่จะทำหน้าที่เป็นจดหมายแจ้งสิทธิ รวมถึงการแจกคูปองล็อทใหม่ที่จะหันมาใช้วิธีส่งจดหมายแจ้งสิทธิแทน โดยคนที่ตกหล่อนไม่ได้รับจดหมายก็สามารถนำบัตรประชาชนมาใช้สิทธิได้โดยไม่ต้องรอตัวคูปอง แต่ปัญหาคือทาง กสทช. ควรต้องมีระบบให้ประชาชนตรวจสอบได้ด้วยว่าตนเองมีสิทธิหรือยัง ไม่งั้นคนก็จะแห่ไปลองใช้สิทธิ์ตรงจุดรับแลกคูปองอันอาจจะทำให้กระทบกับผู้ที่มีสิทธิ์จริงๆ ที่ทำให้ดำเนินการล้าช้าออกไป
แน่ใจได้หรือว่าป้องกันการทุจริตได้
จะว่าไปแล้วแนวคิดการใช้บัตรประชาชนแทนคูปองนั้นก็เป็นแนวคิดที่ดี แต่ปัญหาคือจะป้องกันการทุจริตในแง่ของการรวบรวมบัตรประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน เพราะกรณีนี้จะทำให้บัตรประชาชนมีมูลค่าสำหรับบริษัทขายกล่องขึ้นมาทันที 690 บาท อาจจะเกิดภาวะการรวบรวมบัตรประชาชนจากผู้นำชุมชนหนักกว่าเก่าเพราะไม่จำเป็นต้องรอตัวคูปองแล้ว
คนที่ได้บัตรประชาชนไปหากร่วมมือกับจุดรับแลกซึ่งแน่นอนว่าเป็นพนักงานของบริษัทห้างร้านในท้องถิ่น ก็สามารถดำเนินกระบวนการแลกกล่องทีวีดิจิตอลได้ทันที ลัดขั้นตอนที่ต้องนำสติกเกอร์จากคูปองมาแนบกับเอกสารเพื่อนำส่งในการเบิกเงินจาก กสทช. ต่อไป
ก่อนหน้านี้กระบวนที่ไม่โปร่งใสของการล่าค่าหัวคิวต้องดำเนินการสองส่วนคือ รวบรวมสำเนาบัตร และรวบรวมคูปอง การใช้บัตรประชาชนอย่างเดียวจะทำให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้น เพราะผู้นำชุมชนก็อาจจะทำเพียงแจ้งลูกบ้านว่าให้นำบัตรประชาชนมาแล้วรับกล่องทีวีดิจิตอลไปได้เลย จึงขอฝากให้ กสทช. หาวิธีการที่รัดกุมในการป้องกันการทุจริตด้วย
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.